“คนส่วนใหญ่ที่ติดเชื้อเอชไอวี ได้รับเชื้อจากการมีเพศสัมพันธ์กับคู่ของตนเอง”
เพราะคิดไม่ถึงว่าคู่ จะมีเชื้อเอชไอวีอยู่ในตัว

…คู่ของเรา อาจจะเคยมีเพศสัมพันธ์กับคู่เก่ามาก่อน และรับเชื้อฯ มาแล้ว
…และเรา ก็อาจจะเคยมีเพศสัมพันธ์กับคู่เก่ามาก่อน และอาจได้รับเชื้อฯ มาแล้วเหมือนกัน
แต่เรา ต่างไม่รู้….

หากคุณเคยมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกัน
อยากชวนให้คุณคิดถึงการตรวจหาการติดเชื้อเอชไอวี

จากสถิติคาดว่ามีผู้ติดเชื้อเอชไอวี 500,000 รายที่มีชีวิตอยู่ แต่มีเพียง 250,000 รายเท่านั้นที่รู้ว่าตัวเองติดเชื้อและเข้าสู่การรักษาแล้ว

ดังนั้น อีกกว่าครึ่งหนึ่งที่ยังไม่รู้ว่าติดเชื้ออาจเป็นผู้ส่งต่อเชื้อเอชไอวีให้กับคู่โดยไม่รู้ตัว

การตรวจเลือดเป็นวิธีเดียวที่จะรู้ได้ว่า เราติดเชื้อเอชไอวีหรือไม่

ถ้าตรวจแล้ว ผลเลือดเป็นลบ จะได้มีวิธีที่จะป้องกันตัวเองอย่างไรที่จะไม่รับเชื้อจากคู่รัก คู่นอน

ถ้าหากผลเลือดเป็นบวก จะได้เข้ารับการรักษาอย่างทันท่วงที ไม่ต้องรอให้ป่วยก่อน และจะได้ป้องกันคนรักหรือคู่ ไม่ให้ได้รับเชื้อ

การตรวจเพื่อหาการติดเชื้อเอชไอวี ไม่ได้เป็นการตรวจหาตัวเชื้อเอชไอวีโดยตรง แต่เป็นการตรวจหาสารภูมิคุ้มกันที่ร่างกายสร้างขึ้น หรือ “แอนติบอดี” ถ้าเราได้รับเชื้อเอชไอวี ร่างกายจะค่อยๆ สร้างสารชนิดนี้ออกมาเพื่อต่อต้านหรือกำจัดเชื้อเอชไอวี ซึ่งโดยปกติแล้วร่างกายจะใช้เวลา 1-3 เดือน ในการสร้างแอนติบอดีจนมีปริมาณมากพอที่จะตรวจพบการติดเชื้อได้และให้ผลเป็นบวก

ระหว่างที่ยังไม่ถึง 1 เดือน แม้ว่าจะได้รับเชื้อเอชไอวีมาแล้ว แต่ร่างกายยังสร้างสารแอนติบอดี้ไม่มากพอ ก็อาจให้ผลตรวจเป็นลบได้

ดังนั้น เพื่อให้ผลการตรวจที่แม่นยำ จะต้องตรวจหลังจากได้รับเชื้อเอชไอวี หรือมีความเสี่ยงต่อการรับเชื้อ มาประมาณ 1 เดือนขึ้นไป (หน่วยบริการบางแห่ง อาจจะยังใช้การตรวจหลังจากมีความเสี่ยงมาเป็นเวลา 3 เดือนขึ้นไป)

อย่างไรก็ตาม เมื่อได้รับเชื้อแล้ว จะสามารถส่งต่อเชื้อให้คนอื่นได้เลย

ทุกคนมีสิทธิ์ตรวจเลือดหาการติดเชื้อเอชไอวีฟรี ปีละ 2 ครั้ง

หากพบว่ามีความเสี่ยง สามารถไปรับบริการปรึกษาและตรวจเลือดหาการติดเชื้อเอชไอวีได้ที่โรงพยาบาลของรัฐทุกแห่งโดยไม่มีค่าใช้จ่าย

ถ้าหากติดเชื้อเอชไอวี ก็มีสิทธิได้รับการรักษา โดยไม่ต้องจ่ายเงินอีกเช่น ใช้ได้ทุกคน ทุกสิทธิการรักษาไม่ว่าจะเป็นบัตรทอง ประกันสังคม สวัสดิการข้าราชการ และบัตรประกันสุขภาพแรงงานข้ามชาติ

พร้อมหรือยัง ที่จะ “ตรวจ.. เพื่อก้าวต่อ” จุดเริ่มของการป้องกันและการรักษา